งานอาคาร สถานที่และยานพาหนะ
24/07/2025“ปลาหมอคางดำ” จากภัยคุกคามสู่นวัตกรรมสุขภาพ: งานวิจัยไทยบนเวที MJU-Phrae Conference 2025
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัชระ ดำจุติ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “Black Chin Tilapia, an Invasive Alien Species: Sustainable Utilization for Health Product Development from Ecological Threat to Innovation” ในงานประชุมวิชาการ The 5th National and The 3rd International MJU-Phrae Conference
วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 — ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัชระ ดำจุติ อาจารย์ประจำคณะการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Black Chin Tilapia, an Invasive Alien Species: Sustainable Utilization for Health Product Development from Ecological Threat to Innovation” ในการประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 5 และระดับนานาชาติครั้งที่ 3 The 5th National and The 3rd International MJU-Phrae Conference ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดแพร่
ในการบรรยาย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัชระ ได้นำเสนอกรณีศึกษาเชิงนวัตกรรมจากการนำ ปลาหมอคางดำ (Black Chin Tilapia) ซึ่งเป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นรุกรานที่สร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศไทย มาแปรรูปเป็น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการสกัดแคลเซียมแบบชีวภาพ (Bio-Calcium Extraction) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ อาทิ อาหารเสริม เครื่องสำอาง และยา
แนวทางดังกล่าวมีความสอดคล้องกับหลักการของ Bio-Circular-Green Economy (BCG Model) และสนับสนุนการบรรลุ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) หลายประการ ดังนี้:
✅ SDG 3: Good Health and Well-being
- ส่งเสริมสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง
- ผลิตภัณฑ์แคลเซียมที่สกัดจากกระดูกปลาหมอคางดำผ่านกระบวนการ Bio-Calcium Extraction
- มีความบริสุทธิ์สูง ปราศจากโลหะหนักหรือสิ่งเจือปน
- ช่วยลดปัญหาภาวะขาดแคลเซียม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก และหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการป้องกันโรคจากภาวะโภชนาการ
- สนับสนุนการเข้าถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ปลอดภัยในราคาที่เหมาะสม (affordable access to safe and effective health products)
✅ SDG 12: Responsible Consumption and Production
- การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน แปรรูปปลาหมอคางดำซึ่งเป็นของเสียชีวภาพจากการจับสัตว์น้ำรุกราน ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีมูลค่าเพิ่ม
- ลดการทิ้งซากปลาที่ไม่มีมูลค่าในอุตสาหกรรมประมงพื้นบ้าน
- กระบวนการสกัดที่ใช้กรดอินทรีย์และการควบคุมสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานและไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างอันตราย (green chemistry approach)
✅ SDG 14: Life Below Water
- การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและแหล่งน้ำ
- การควบคุมประชากรปลาหมอคางดำ ซึ่งเป็น สัตว์ต่างถิ่นรุกราน (Invasive Alien Species) ช่วยลดผลกระทบต่อระบบนิเวศของปลาท้องถิ่นและสัตว์น้ำพื้นถิ่นอื่น ๆ
- การนำปลาหมอคางดำมาใช้ประโยชน์ เป็นแนวทางจัดการเชิงรุกในการฟื้นฟูความสมดุลทางระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ
- ลดความเสี่ยงต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity loss) ที่เกิดจากการแพร่ขยายของสัตว์น้ำรุกราน
✅ SDG 9: Industry, Innovation and Infrastructure
- การสร้างนวัตกรรมและอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน
- พัฒนากระบวนการสกัดแคลเซียมแบบชีวภาพ (Bio-Calcium Extraction) ที่ใช้ต้นทุนต่ำ และสามารถประยุกต์ใช้ในระดับอุตสาหกรรม (scalable technology)
- ส่งเสริมนวัตกรรมในกลุ่มอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และยา ที่มีมูลค่าสูง จากวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น
- สร้างโอกาสให้แก่ Startup และวิสาหกิจชุมชน (Community Enterprises) ในการต่อยอดนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจฐานราก และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในอุตสาหกรรม BCG
นอกจากนี้ การบูรณาการองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับภูมิปัญญาท้องถิ่นในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเชิงระบบ ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักวิจัยไทยในการสร้าง นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนความยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
การบรรยายของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัชระ ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมประชุมทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของการแปลงวิกฤตสิ่งแวดล้อมให้เป็นโอกาสทางนวัตกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืน